มีเทวดาองค์หนึ่ง เหาะลงมายังเมืองมนุษย์ เพื่อต้องการค้นหา บุคคลที่ไม่มีความโลภ และสละแล้วซึ่งกิเลสความอยากได้ใคร่มีในสิ่งต่างๆ เมื่อถึงโลกมนุษย์แล้ว เทวดาได้แปลงกายเป็นชายชราและเดินตรงไปยัง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แลเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่คนเดียว ชายชราจึง ตรงเข้าไปหาแล้ววางก้อนหินขนาดหัวแม่มือ ลงตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมใช้นิ้วชี้ ของท่านชี้ก้อนหินนั้น และแล้วหินก็กลายเป็นทองคำเหลืองอล่ามในทันที
"เอ้า...ข้าให้เจ้า รับไว้ซิ เดี่ยวข้าจะไปธุระต่อ" ชายชราพูดแล้วก็หยิบทองคำ ยื่นส่งให้แก่ชายหนุ่ม แล้วก็เดินจากไป
ชายชราเดินลับหลังมาได้สักครู่ ก็เห็นชายหนุ่มคนเดิมวิ่งตามมา พร้อมกับพูดอย่างระล่ำระลักเชิงขอร้องว่า
"คุณตาครับ กรุณาช่วยชี้หินก้อนนี้ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"
พูดแล้วก็วางก้อนหินขนาดใหญ่ลงตรงหน้าเทวดาที่ปลอมตัวมา
"ข้าไม่ชี้ให้เอ็งหรอก เพราะเอ็งมันเป็นคนโลภมาก" พูดแล้วชายชราก็เดินจากไป
ต่อจากนั้นชายชราก็เดินเข้าไปยังหมู่บ้านอื่นๆ แล้วก็ทำเหมือนเดิม ทุกครั้งที่ส่งหินทองคำให้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หนุ่มสาว ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย ทุกคนจะต้องตามมาขอร้องให้ชายชราชี้หินก้อนโตกว่าเดิมให้ เทวดาที่ปลอมเป็นชายชราเห็นแล้วรู้สึกหมดกำลังใจ และคิดว่าคงจะหาใครสักคน ที่เป็นผู้ไม่โลภโมโทสันในโลกมนุษย์นี้ไม่ได้เป็นแน่แท้คิดจะกลับสู่สวรรค์แต่เพื่อให้มั่นใจ จึงน่าจะลองดูอีกสักคน เผอิญเหลือบไปเห็นพระฤาษีตนหนึ่งกำลังนั่งบำเพ็ญตบะใต้ต้นไม้ จึงเดินตรงเข้าไปหา พลางเอาก้อนหินวางไว้ตรงหน้า แล้วใช้นิ้วชี้ก้อนหินนั้นให้เป็นทองคำ แล้วพูดกับฤาษีว่า
"ข้าแด่ท่านผู้ทรงศีลข้าขอถวายหินทองคำก้อนนี้แด่ท่าน"
"อาตมารับไว้ไม่ได้หรอก จงเอาคืนไปเถิด" พระฤาษีตอบพร้อมส่ายหน้า
ชายชราจึงนำเอาก้อนหินขนาดเขื่องกว่าเดิมมาชี้ให้เป็นทองคำ แล้วถวายแด่ฤาษีคำตอบที่ได้รับก็ยังคงเหมือนเดิมคือ
"อาตมารับไว้ไม่ได้หรอก จงเอาคืนไปเถิด"
แม้ชายชราจะนำเอาก้อนหินขนาดใหญ่สักเท่าใดก็ตาม มาชี้แล้วส่งให้ก็ได้รับคำปฎิเสธ ทำให้ชายชรามีกำลังใจขึ้นมาก คิดในใจว่า
"พระฤาษีตนนี้แหละ คือผู้ไม่โลภเป็นแน่แท้"
ก่อนที่ชายชราจะจากไป ด้วยความสงสัยจึงถามพระฤาษีว่า
"เหตุใดท่านจึงไม่รับหินทองคำเหล่านี้ไว้ ท่านไม่อยากได้หรือ"
"ใช่อาตมาไม่อยากได้ทองคำเหล่านั้นหรอก" พระฤาษีตอบแล้วหยุดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก และจึงพูดต่อ
"แต่อาตมาอยากได้นิ้วที่ชี้หินนั้นมากกว่า"
เทวดาซึ่งปลอมเป็นชายชราได้ยินพระฤาษีพูดดังนั้นถึงกับนิ่งอึ้งแล้วก็เดินหนีไปความโลภของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด คือมนุษย์ไม่มีความพอ อยากได้โน่นได้นี่อยู่ร่ำไป ได้อย่างโน้นก็อยากจะได้อย่างนี้อีก จึงมีคำกล่าวว่า
"แม้นว่าฝนจะตกลงมาเป็นเงินเป็นทอง มนุษย์ก็ยังไม่พอใจอยู่นั่นเอง"